RakDok Floral Destination | มหัศจรรย์แดนมาลี
Return to Innocence | A RakDok Floral Tale
Story & Conceptual Design | Joe Rainforest
ห้ามพลาด!!! กับมุมถ่ายรูป 20 จุด บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ งานสวยตรึงตราตรึงหัวใจ
RakDok x The Blooms Orchid Park
“นิทรรศการเพื่อการอนุรักษ์กล้วยไม้ป่าของไทย” ที่ The Blooms Orchid Park Ratchaburi จ.ราชบุรี รีบมาด่วน! เพราะงานมีแค่ 3 เดือนเท่านั้น! !
งานนนี้จัดให้เหล่า Flower Wanderlusters หรือผู้ที่รักการเสพงานดอกไม้ในรูปแบบใหม่ มาไล่ล่าหาภาพในฝัน แล้วนำภาพมาร้อยเรียงเรื่องราว ให้เป็น Floral Tales ในฉบับของตัวเอง แล้วมาดูกันว่าจะได้ภาพ ได้ความประทับใจอะไรกลับมาจากแดนมาลีกันบ้าง
ในงานแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนอุทยานสวนกล้วยไม้ และ ส่วนของนิทรรศการ RakDok (สามารถเข้าชมได้ทั้ง 2 ส่วนเลย)
ส่วนแรก คือ สวนป่าอุทยานกล้วยไม้
มีการจัดแสดงดอกกล้วยไม้ที่ผลิตในเชิงพาณิชย์หลากหลายชนิด และมีกล้วยไม้ป่าและกล้วยไม้ที่หายาก ซึ่งกล้วยไม้ป่าที่ปลูกธรรมชาติจะทยอยออกดอกตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ (ปกติกล้วยไม้ป่ามักจะออกดอกตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม) แล้วแต่สายพันธุ์
ส่วนที่สอง คือ นิทรรศการ RakDok
ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการนิทรรศการประกอบนิทานที่เขียนขึ้นโดยคุณ Joe Rainforest โดยนิทรรศการ RakDok Floral Destination | มหัศจรรย์แดนมาลี จะเป็นการจัดฉากประกอบนิทานดอกไม้ (A Floral Tale) มหัศจรรย์แดนมาลี (Return to Innocence) ตื่นตาตื่นใจกับฉากนิทานดอกไม้ 20 ฉาก สร้างสรรค์จากโครงสร้าง ดอกไม้สด ดอกไม้เสมือนจริง และไม้ดอกไม้ใบกระถาง
นิทานสั้น ที่มาของ ‘มหัศจรรย์แดนมาลี’
Introduction Chapter l An Old Days
เวลาที่ประสบปัญหาชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจ การงาน สุขภาพหรือความรัก คุณเลือกรับมือกับปัญหาด้วยวิธีไหน สำหรับผมแล้ว บ่อยครั้ง “การอ่านหนังสือ” มักถูกเลือกใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้กับปัญหา อ่านเพื่อให้เกิดปัญญา และยังเชื่ออยู่เสมอว่า ‘สติและปัญญา’ คืออาวุธที่ดีที่สุด
อีกครั้งที่ปัญหาพาผมกลับมาที่ชั้นวางหนังสือ ผมเก็บหนังสือเก่าไว้หลายเล่ม บางเล่มอ่านจบไปหลายรอบ ในขณะที่บางเล่มตั้งแต่ซื้อมายังไม่เคยเปิดอ่านแม้แต่หน้าเดียว หนังสือบางเล่มเคยถูกใช้เป็นกุญแจไขไปหาทางออกของปัญหา ในขณะที่บางเล่มก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังสือ แต่เป็นที่เก็บความทรงจำ ผมรื้อดูไปเรื่อยจนเจอหนังสือเก่าเก็บเล่มหนึ่ง เก่าขนาดที่นั่งจามน้ำหูน้ำตาไหลจากอาการแพ้ฝุ่นเมื่อคลี่หน้าหนังสือออกอ่าน
วัยเด็กที่จากผมไปนานแล้วถูกแทนที่ด้วยภาระหน้าที่และความรับผิดชอบเยอะแยะมากมาย สวนดอกไม้หลังบ้านเก่าโทรมหลังหนึ่ง ผมเคยใช้ชีวิตและขลุกอยู่กับมันทั้งวัน ปลูกต้นไม้ที่พ่อแม่ซื้อมาให้ ดอกไม้ที่เกิดจากเมล็ดที่ปลูกเองกับมือ ถูกแทนที่ด้วยเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แต่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยค่าตอบแทนในรูปแบบความสุขที่น้อยนิด
เรื่องราวในหนังสือไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มได้ แต่ความสุขความทรงจำที่แห้งตายอยู่ในหนังสือต่างหากคือความสุขที่ผมเก็บลืมในคลังความทรงจำของผมต่างหาก ที่ทำให้ผมยิ้ม (จบฉาก 1)
Chapter I | Waking Up in A Nightmare (ฝันร้าย)
การลืมตาตื่นขึ้นมาในที่ที่เราไม่คุ้นตามันคงไม่ใช่เรื่องผิดปกติหากเกิดขึ้นในความฝัน และ ณ ขณะเวลาที่เราเผชิญหน้ากับโลกที่ไม่คุ้นเคยอยู่นั้น เรื่องราวที่ไร้ซึ่งแบบแผน เกินจริงมักจะเกิดขึ้นในเวลาเช่นนี้ เตียงนอนตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้งคือเรื่องผิดปกติสำหรับชีวิตปกติ ทุ่งดอกไม้เบาแห้งโอบรอบและกลีบดอกไม้ดอกเล็กร่วงปะปนกันอยู่กับซากปีกผีเสื้อ ในขณะที่ยังมีผีเสื้อขยับปีกบินไปมา ใช้ชีวิตอยู่เพื่อเหตุผลบางอย่างที่มันเองก็อาจจะไม่เข้าใจ
(Scene 3.) The Gate (ซุ้มประตู)
ผีเสื้อไม่เคยรู้ว่าชีวิตเกิดมาเพื่ออะไร แต่ผีเสื้อรู้ว่าที่ไหนมีดอกไม้ น้ำหวานจากดอกไม้คือสิ่งที่มันแสวงหา เด็กน้อยได้แต่เดินตามผีเสื้อบอบบาง บินผ่านทุ่งแล้งดอกไม้แห้ง จนมาหยุดอยู่หน้าซุ้มกลางสวนร้าง จุดที่ผีเสื้อน้อยขยับปีกครั้งสุดท้ายก่อนปล่อยร่างปลิวร่วงลงที่หน้าซุ้มดอกไม้ที่หลงเหลือเป็นซากเหี่ยวแห้งไร้ชีวิตติดคาอยู่ที่โครงเหล็ก
(Scene 4.) Forgotten Town (เมืองที่ถูกลืม)
เมื่อหมดผู้นำทาง การเดินสำรวจเมืองร้าง เป็นทางเลือกเดียวที่พอจะทำได้ สภาพเมืองที่ถูกทิ้งลืมยังมีร่องรอยเค้าโครงความสวยงาม ซึ่งมากพอจะนึกภาพได้ว่าที่นี่เคยสวยงามแค่ไหน ผู้คนในเมืองนี้หายไปไหนหมด เกิดอะไรขึ้นในเมืองนี้
โต๊ะอาหารที่เห็นเพียงร่องรอยของความอุดมสมบูรณ์ ความสวยงาม วันนี้ไร้อาหาร ไร้ผู้คน ไร้เสียงหัวเราะ สิ่งที่หลงเหลือชวนให้ใจหดหู่เงียบเหงา ใต้เงาต้นไม้ใหญ่ที่ยืนให้ร่มเงามานานดูเซื่องซึม ลำแสงที่เล็ดลอดทอดลงพื้นดิน ไม่เพียงพอที่จะให้ดอกไม้ต้นเล็กๆเติบโตไปจนถึงวันที่จะผลิดอกออกเมล็ด
Chapter ll l Butterfly Kingdom
เด็กน้อยย่างก้าวตามทางเดินไปเรื่อยจนถึงลำธาร แล้วนั่งลงปนครุ่นคิดอยู่ริมน้ำ คำถามมากมายในความงุนงงเริ่มกวนใจ สักครู่เด็กน้อยก็ยืดคอยื่นหน้าเพื่อมองหาอะไรบางอย่างในลำธารแทนการตอบคำถามในหัวของตัวเอง ใช่แล้ว เราเคยสนุกกับการมองหาปลาในที่ที่มีน้ำใส แต่สิ่งที่เด็กน้อยเห็นกลับไม่ใช่ปลา แต่เป็นภาพใครบางคนสะท้อนเป็นเงาอยู่ที่ผิวน้ำ คนที่เด็กน้อยน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ใบหน้าในน้ำทำให้ลืมระวังตัว เด็กน้อยพลัดลื่นตกลงไปในลำธาร พร้อมกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด น้ำหมุนมาพร้อมกับเกลียวคลื่นที่ไม่สามารถบอกได้ว่ามาจากไหน ได้สะบัดเกลียวเกรี้ยวกราดหมุนเหวี่ยงร่างเด็กน้อยไปมาอย่างไร้ทิศทาง
เด็กน้อยถูกเกลียวน้ำส่งเข้าไปติดอยู่ในทุ่งสาหร่าย มันช่วยหยุดร่างเด็กน้อยไม่ให้ไหลลอยไปตามกระแสน้ำ เด็กน้อยพยุงตัวไม่ให้จมน้ำ และพยายามตะเกียกตะกายเข้าหาฝั่ง เมื่อปีนขึ้นฝั่งได้ เด็กน้อยทิ้งร่างเปียกโชกนอนหงายลงบนลานแห้งใต้ต้นไม้ใหญ่ หลับตาตั้งสติรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
ภาพที่เห็นคือฝูงผีเสื้อ และที่อยู่ไม่ห่างตัวมันคือคือดักแด้รังใหญ่ เด็กน้อยถูกน้ำพัดมาที่แดนดินที่ผีเสื้อนับร้อยนับพัน บินโฉบไปมาอย่างไร้เหตุผล หรือมันกำลังดีใจ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผีเสื้อเหล่านี้ร่าเริงผิดปกติ
พลันรังดักแด้ก็ค่อยฉีกออก กลีบปีกแทรกช่องว่างของรังที่ฉีกเป็นแนว ก่อนที่จะคลี่ปีกออกอวดทุกสายตา หลังจากขยับปีกได้ไม่นาน ผีเสื้อยักษ์ผิดขนาด ก็กระพือปีกโบยบิน ไม่ทันตั้งตัว มันก็บินเข้าไปตะปบจับร่างเด็กน้อยด้วยขาทั้งหมดไว้แน่น ก่อนจะบินทยานพุ่งไปข้างหน้าโดยที่เด็กน้อยไม่รู้จุดหมาย
Chapter lV l Seeds of Hope (เมล็ดพันธ์ุแห่งความหวัง)
(Scene 12.) Arriving The Kingdom of Flowers (เขตแดนมาลี)
ผีเสื้อปล่อยเด็กน้อยลงที่กลุ่มเกสรหนานุ่มที่แดนมาลี จากนั้นก็บินจากไป ภาระหน้าที่ของมันเสร็จสิ้นแล้ว ความหวังหลังจากนี้คือการรอ คอยว่าวันหนึ่งมันจะพาฝูงผีเสื้อครอบครัวของมัน จะได้มีโอกาสกลับมาโบยบินอยู่ในแดนมาลีที่อุดมสมบูรณ์อย่างมีความสุขอีกครั้ง
(Scene 13.) The Key (ปริศนา)
“ยินดีต้อนรับสู้แดนมาลี” เสียงแว่วมาจากพุ่มดอกไม้ “ไปเอาเมล็ดพันธ์ุที่เจ้าเก็บไว้กลับไปสร้างแดนมาลี” เสียวเบาแผ่วแต่ชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงที่คุ้นมาก มากจนเหมือนเด็กน้อยพูดประโยคนั้นออกมาเอง เสียงนั้นดนใจให้เด็กน้อยปรายมองไปที่บนเนินเขาสูงอย่างไม่รู้ตัว กระท่อมน้อยถูกห่อหุ้มด้วยหิมะขาวโพลน
(Scene 14.) The Seeds (เมล็ดพันธ์ุ)
เด็กน้อยรีบเดินขึ้นเขาสูงไปเรื่อยเหมือนรู้ว่าอะไรถูกเก็บไว้ที่นั่น อะไรที่ว่าถูกเก็บลืม แต่สิ่งที่ถูกลืมไม่เคยจะหมดกำลังใจที่จะรอ ทันทีที่ประตูกระท่อมถูกเปิดออก เมล็ดดอกไม้นานาพันธุ์ก็ไหลทะลักออกมาจากช่องประตูอย่างมากมาย เด็กน้อยโกยเมล็ดดอกไม้เท่าที่จะทำได้ ก่อนจำนำเมล็ดดอกไม้หว่านโปรยลงดินเหมือนที่เคยทำ ใช่เหมือนที่เคยทำเมื่อนานมาแล้ว และมันนานมากจนความทรงจำเกือบจะถูกเวลาลบเลือน
(Scene 15.) First Spring (สัมผัสแรกแห่งฤดู)
เพียงเมล็ดพันธ์ุที่นอนนิ่งบนผืนดินสัมผัสละอองน้ำและแดดอ่อน ดินแดนที่เคยว่างเปล่าก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยสีเขียวของใบไม้ ชั่วพริบตาดอกไม้สารพัดสี ก็แย่งกันอวดกลีบสวยเต็มท้องทุ่งปะปนผสมอยู่กับทุ่งหญ้าเขียว ผีเสื้อหลากสีสันบินโฉบบินแวะดอกไม้ไปมา ช่วยให้ดอกไม้พร้อมที่จะสร้างเมล็ดพันธุ์ในรุ่นต่อไป
(Scene 16) The Kingdom of Flowers (แดนมาลี)
แดนมาลีคือดินแดนแห่งความฝันและเต็มไปด้วยความสุข วันนี้เด็กน้อยเดินเข้าไปในสวน แล้วบรรจงเมล็ดพันธ์ุดอกไม้ที่ตนเองชอบที่เริ่มแก่จัดจัดเต็มสองกำมือ
Ending Chapter l Conclusion by Doing (บทสรุปต่างบท)
เสียงใครบางคนเรียกขื่อเด็กน้อย เป็นเสียงเรียกที่ปลุกให้ตื่นจากความฝันในแดนมาลี ตื่นขึ้นมาในขณะที่มือทั้งสองยังกำบางสิ่งบางอย่างไว้แน่น
เมล็ดดอกไม้ เมล็ดพันธ์ุที่เก็บจากแดนมาลี ยังคงคาอยู่ในกำมือ มันช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ใครจะเชื่อ ผมรีบลุกจากเตียงเพื่อนำเมล็ดดอกไม้ทั้งหมดไปหว่านลงดิน ก่อนที่จะลืมมันอีก ผมลงมือปลูกและดูการเจริญเติบโตของดอกไม้เหล่านั้น วันแล้ววันเล่าผมปลูกดอกไม้มากมาย มากพอที่จะแจกจ่ายเมล็ดพันธ์ุแห่งความสุขไปให้ใครต่อใคร
บางคนได้รับเมล็ดดอกไม้ แต่ก็ไม่ได้นำมันกลับไปปลูกในทันที รอวันว่างที่ไม่เคยมาถึง เมล็ดดอกไม้อยากกลับสู่ทุ่งดอกไม้ แต่เมล็ดบางเมล็ด ก็ไม่สามารถรอได้นานขนาดนั้น เมื่อไม่ได้รับน้ำ ไม่ได้นอนในดินอุ่น และไม่มีแสงแดดคอยปลุกให้ตื่นและเติบโต ไม่นาน พวกมันก็จะกลายเป็นฝุ่นผงกลับไปสู่แดนดินที่ถูกลืมอีกครั้ง
เมล็ดดอกไม้บางส่วนถูกหว่านทิ้งอย่างไร้ค่า จะเกิดหรือตาย ขึ้นอยู่กับการหยิบยื่นโอกาสจากธรรมชาติ หากเมล็ดตกไปอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ก็พอจะมีโอกาสเกิดอีกครั้ง หากเกิดอยู่บนดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์ ดอกไม้ก็ทำได้เพียงรอวันที่ผีเสื้อจะโบยบินพาละอองเกสรของมันเดินทางไปหาความหวังใหม่
(Scene 18.) Flower Field (ทุ่งดอกไม้)
เมล็ดดอกไม้ที่สมบูรณ์แข็งแรงจำนวนมาก อาจถูกสายลมพัดปลิวไปร่วงหล่นลงบนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ ถึงแม้ไร้การเหลียวแล แต่เมื่อฤดูกาลที่เหมาะสมมาถึง มันจะเริ่มต้นชีวิตผลิใบอ่อน และเติบโตสวยงามเป็นดอกไม้เบ่งบานท่ามกลางทุ่งดอกไม้นานา
(Scene 19.) Flowers are Treasures (ดอกไม้ในแปลงปลูก)
เมล็ดพันธ์ุบางส่วนถูกนำไปปลูกอย่างตั้งใจ ปรับปรุงพันธุ์ดอกไม้ผ่านนวัตกรรม เพิ่มสีสัน สร้างคุณสมบัติใหม่และรูปทรง ออกมายั่วยวนตาชาวโลก จนสุดท้ายกลายเป็นดอกไม้สวยที่นำประโยชน์มาสู่เหล่าผู้ที่มองเห็นประโยชน์ และนำไปใช้ประโยชน์สารพัน สร้างรายได้และอนาคต
(Scene 20.) Wall or Way (กำแพงหรือทางไป)
สุดท้ายดอกไม้จะมีประโยชน์หรือไม่ อยู่ที่มุมมอง เมื่อมองเห็นประโยชน์ มันจะถูกพัฒนาต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ และจะกลายเป็นเรื่องเล่าถ่ายทอดผ่านนิทรรศการ รักดอก RakDok วันแล้ววันเล่า เล่าแล้วเล่าอีกอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
ความจริงแล้ว ใครก็สามารถเล่าเรื่องจากดอกไม้ได้ เรื่องใหม่รอการมาเล่า อีกครั้งที่ผมเดินไปเด็ดดอกไม้ในสวน แล้วนำไปทับเก็บไว้ใน ‘มหัศจรรย์แดนมาลี’ เผื่อวันหนึ่งผมลืมความสุขในสวนดอกไม้เล็กๆหลังบ้าน ดอกไม้ที่ผมทับเก็บความทรงจำไว้ อาจจะร่วงออกมาทักทาย และพาผมกลับไปหาเมล็ดแห่งความฝันอีกครั้งในแดนมาลี
ว่ากันว่าผีเสื้อสื่อถึงสัญลักษณ์ของชีวิตที่ไม่มีวันตาย ตราบใดที่ยังเห็นผีเสื้อโบยบิน ถึงแม้ที่สถานที่แห่งนั้น จะไม่มีดอกไม้ให้เห็น แต่ให้เชื่อเถอะว่า ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่งไปไกลจากสถานที่แห่งนั้น จะมีดอกไม้เบ่งบานอยู่อย่างแน่นอน
Joe Rainforest
01.12.2020
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ : RakDokChannel
…………….
จัดสรรเวลาให้ดีและเตรียมตัวให้พร้อมในการไปเยี่ยมเยือนดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ เพราะแดนมาลีเป็นเพียงโลกแห่งจินตนาการ ดังนั้นจะปรากฎอยู่บนโลกนี้เพียง 3 เดือน หลังจากนั้น แดนมาลีทั้งเมืองจะสูญสลายหายไปตลอดกาล
………………..
Camera Gear
Canon Eos R6 / 6D
………………..
ฝากกดไลค์ กดแชร์ Facebook Post กันด้วยนะคะ
? RakDok Floral Destination | มหัศจรรย์แดนมาลี
Return to Innocence | A RakDok Floral Tale
นิทรรศการเพื่อการอนุรักษ์กล้วยไม้ป่าของไทย
Soft Opening 5-7 December 2020
เวลาเปิด – ปิด / (Open and Close Time) : 5 ธันวาคม 2563 – 28 กุมภาพันธ์ 2564
เวลาทำการและจำหน่ายบัตรเข้าชมนิทรรศการ (Open and Close Time)
วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี (Mon – Thu) : 09.00 – 17.00 น.
วันศุกร์ – วันอาทิตย์ (Fri – Sun) : 07.00 – 17.00 น.
วันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (Holiday) : 07.00 – 17.00 น.
สามารถอยู่ถ่ายภาพได้ถึงเวลา 17.30 น. หรือจนกว่าแสงจะหมด
โทร : 06-1899-7893
ราคาบัตร : ผู้ใหญ่ 200.- บาท, เด็ก 120.- บาท (เด็กสูงไม่เกิน 110 ซ.ม.)
facebook : RakDokChannel
ที่จอดรถ : มี
**หมายเหตุ** บัตรเข้าชมงานเป็นแบบ One Day Pass ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
? พิกัด : สถานที่จัดนิทรรศการ ตั้งอยู่ที่ The Blooms Orchid Park (เดอะบลูมส์ ออร์คิดปาร์ค) จังหวัดราชบุรี