progressive lenses varilux
รีวิว เลนส์โปรเกรสซีฟ วารีลักซ์ บริษัท Essilor
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ครีมมีโอกาสได้พาแม่เข้ามาตัดแว่นที่ Essilor ค่ะ เห็นช่วงนี้แม่บ่นว่าสายตามันเริ่มเบลอๆ …. เบลอว่ารักแถบ แบบว่ารักเธออะค่ะ ฮ่าๆ (อะหยอก) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสายตาเลยแนะนำ “เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์วารีลักซ์ ของ Essilor” ค่ะ
เลนส์โปรเกรสซีฟ คืออะไร ?
เลนส์โปรเกรซีฟ เป็นเลนส์หลายโฟกัส ตัวเลนส์นี้สามารถมองเห็นได้ในระยะใกล้ ระยะกลาง ระยะไกล ภาพคมชัดในทุกระยะแม้ว่าจะมีแสงน้อย แถมตัวนี้มีเทคโนโลยีแบบ 4D คือ การโฟกัสทันทีที่ดวงตาเปลี่ยนทิศทางการมองด้วย ทำให้ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ทำให้ปรับสภาพได้อย่างรวดเร็วและถนอมสายตาอยู่ตลอดเวลา ที่พิเศษไปกว่านั้น เลนส์โปรเกรสซีฟคู่แรกของโลก ก็ผลิตมาจากบริษัท Essilor เนี่ยละจ้า ทำให้ยิ่งมีความมั่นใจเข้าไปอีกว่า เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์วารีลักซ์ ต้องมีคุณภาพที่ดีแน่ๆ
มาดูถึงความแตกต่างกัน ระหว่างเลนส์สายตายาวแบบธรรมดา และ เลนส์โปรเกรซีฟ กันค่ะ
เลนส์ด้านซ้าย (เลนส์สายตายาวแบบธรรมดา)
เป็นเลนส์สายตายาวและเลนส์อ่านหนังสือแบบธรรมดา สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล และระยะใกล้แบบอ่านหนังสือ ลักษณะของเลนส์จะดูหนาๆเป็น 2 ชั้น ทำให้เวลาใส่ออกมาจะเหมือนแว่นคุณตาคุณยาย
เลนส์ด้านขวา (เลนส์โปรเกรซีฟ)
เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ ของวารีลักซ์ จะเห็นได้ว่า ตัวเลนส์จะสามารถมองเห็นทั้งในระยะใกล้ กลาง ไกล แถมครอบคลุมตรงขอบด้านข้างอีกด้วย ลักษณะของเลนส์จะเป็นเลนส์ชั้นเดียว ขอบบาง ไร้รอยต่อ ดูทันสมัย ใส่แล้วดูไม่สูงวัย
อย่างแรกเรามาเลือกกรอบแว่นกันค่ะ
ต้องบอกก่อนว่ากรอบแว่นที่จะใช้คู่กับเลนส์โปรเกรสซีฟ มีดังนี้
1. กรอบแว่นควรมีแป้นจมูก เพราะจะต้องทำการปรับแต่งให้เหมาะกับระยะของสายตาในการมอง
2. กรอบแว่นต้องไม่ใหญ่เกินไป และไม่เล็กเกินไป เพราะยิ่งขนาดแว่นที่ใหญ่มากขึ้นเท่าไร ก็จะทำให้มุมด้านข้างบิดเบือนมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งแว่นใหญ่ก็จะทำให้เห็นความหนาของเลนส์มากขึ้น ส่วนกรอบที่เล็กไปอาจทำให้ระยะการมองไม่ดีเท่าที่ควร
3. กรอบแว่นต้องกระชับพอดี ไม่เลื่อนหล่น เพราะถ้าแว่นไม่พอดี มีการเลื่อนก็จะทำให้มุมมอง โฟกัสไม่ถูกต้องด้วยตามจุดการมองของสายตา
4. กรอบแว่นควรมีน้ำหนักเบา ทำให้ผู้สวมใส่ ใส่สบาย ใช้งานได้อย่างสะดวก
5. กรอบแว่นไม่ควรมีองศาโค้งเกินไป เพราะจะทำให้มุมมองด้านข้างบิดเบือน
จริงๆถ้ากลัวว่าจะเลือกกรอบแว่นไม่ถูกก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามีกรอบแว่นให้เลือกเยอะมาก หลายแบบ หลายทรงเลยหล่ะ ส่วนของคุณแม่ครีมเลือกกรอบแว่นของ Bolon ค่ะ
มาถึงขั้นตอนในการตรวจสายตาบ้าง
จะมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านสายตาเข้ามาสอบถามประวัติเกี่ยวกับสายตาเราเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ลงมือตรวจค่าสายตากันค่ะ
ขั้นตอนแรก
ใช้เจ้าตัว AKR 550 วัดสายตาด้วยระบบคอมพิวเตอร์กันก่อน
หลังจากนั้นตัว Vision-R800 จะทำการเลือกเลนส์ที่เหมาะกับค่าสายตา และให้เราลองใส่เลนส์นั้นโดยอัตโนมัติผ่านตัวเครื่องได้เลย
ถ้าเป็นวิธีแบบเก่า ผู้เชี่ยวชาญจะต้องหยิบเลนส์ตัวอย่างมาใส่ ก็จะเปลี่ยนไปทีละเลนส์จนกว่าจะตรงกับค่าสายตาเรา แต่เครื่องปัจจุบันมีเครื่อง Vision-R แล้ว โดยให้คอมเป็นตัวเลือกให้ แล้วเรามองผ่านช่องมองอย่างเดียว คือทันสมัยมากก
ขั้นตอนที่ 3 ใช้เครื่อง Eye Ruler ใช้วัดจุดสะท้อนตาดำกับตำแหน่งของกรอบแว่น เพื่อหาจุดที่มองแล้วชัดที่สุด ตรงนี้ผู้เชี่ยวชาญจะให้เรามองไปในทางตรง ให้หันซ้าย หันขวา เพื่อทำให้พอดีตำแหน่งตาดำของเรา เพียงเท่านี้ก็เสร็จแล้ว รอตัดแว่นประมาณ 10 วัน
1. เครื่อง WAM 700 ตัวเครื่องนี้มีความสามารถหลายอย่างเลย ได้แก่
– สามารถตรวจค่าสายตาสั้น,ยาว, เอียง, และความโค้งของกระจกตา ได้อย่างแม่นยำสูงสุด 0.01 D
– สามารถตรวจวัดกระจกตา เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงของโรคกระจกตาย้วย
– สามารถตรวจหาความผิดปกติของคลื่นแสงที่ผ่านกระจกตา รูม่านตา (OA, HOA, Day/Night)
– สามารถตรวจคุณภาพเลนส์ตา เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงของโรคต้อกระจก ความหนากระจกตาและมุมช่องหน้าม่านตา
แค่เครื่องมือดี ทันสมัย ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วจริงไหมทุกคน เพราะสายตาไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันคืออวัยวะที่สำคัญที่สุดอย่างนึงเลยก็ว่าได้
หลังจากที่คุณแม่ได้เข้ามารับแว่นแล้ว หลังจากนั้นคุณแม่ก็ใส่อยู่ประมาณ 4-5 วันถึงจะชิน
(จริงๆอันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะปรับตัวได้เร็วหรือช้ามากแค่ไหน)
การใช้เลนส์โปรเกรซีฟที่ถูกต้อง
ระยะใกล้ เมื่อต้องการเล่นมือถือ หรืออ่านหนังสือ เพียงแค่เหลือบตาลง มองผ่านส่วนล่างของเลนส์โดยไม่ต้องก้มหน้าลงให้ปวดคอ
ระยะกลาง ๆ – ระยะไกล ให้เหลือบตาขึ้น แต่ไม่ต้องเชิดหน้า ภาพที่เห็นก็จะคมชัด ไม่ต้องก้มๆเงยๆ เพียง
แค่เหลือบตาเท่านั้น
การมองซ้าย – ขวา อาจจะต้องหันตามบ้างนิดหน่อย เพราะระยะโฟกัสที่ชัดที่สุดจะอยู่ตรงจุดตาดำของเรา ทำให้ระยะขอบเลนส์ซ้ายขวาอาจจะไม่เท่าเลนส์มองตรง
ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่าพอได้แว่นมาใหม่ อาจจะยังปรับตัวไม่ค่อยได้ วิธีการใส่แรกๆ จะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน
ขั้นที่ 1 : ช่วง1-2 วันแรก ให้ใส่แว่นเฉพาะเวลาเล่นมือถือ หรืออ่านหนังสือก่อน ให้หัดใส่ในช่วงระยะใกล้ๆ
ขั้นที่ 2 : พอเริ่มชินจากการใส่ในระใกล้ ให้ลองใส่แล้วฝึกเดินขึ้น-ลงบันได หรือ ทำกิจกรรมในบ้าน
ขั้นที่ 3 : หลังจากชินแล้ว สามารถใส่ตอนขับรถได้
ใช้น้ำยาล้างจากเช็ดทั้งเลนส์และกรอบ เพื่อไม่ให้เป็นคราบเหงื่อติดค้าง ส่วนเวลาถอดแว่น ให้วางแว่นแล้วหงายขึ้น เพื่อป้องกันเวลาเราทำแว่นตก จะได้ไม่โดนตัวเลนส์
ความรู้สึกหลังใช้งาน
พอคุณแม่ใช้ไปได้ 1 อาทิตย์ คุณแม่บอกว่าชอบตรงที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นเยอะ สามารถมองเห็นได้ในทุกระยะ ไม่ต้องมานั่งถอดๆใส่ๆให้รำคาญอีกต่อไป แถมตัวแว่นก็แข็งแรง มีน้ำหนักเบา ไม่กดจมูกอีกด้วย
(รีวิว เลนส์โปรเกรสซีฟ วารีลักซ์)
ค้นหาร้านแว่นตาใกล้คุณได้ที่ : EssilorThailand store-locator
ดูข้อมูลเลนส์โปรเกรสซีฟ Varilux เพิ่มเติม : Varilux Essilor
facebook : EssilorThailand
Website : www.essilor.co.th